ทลายร้านจัดฟันเถื่อนพบเหล็กดัดปนเปื้อนสารหนู เสี่ยงติดเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบ #่ข่าวที่ 8

                                     
                                                                    ที่มา : sanook
  ทลายร้านจัดฟันเถื่อนพบเหล็กดัดปนเปื้อนสารหนู เสี่ยงติดเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบ
             เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. 61 ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีพ.ต.อ.จิรกฤต จารุยภัทร์ ผกก.ดส., พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล สว.กก.ดส., รศ.ทญ.นิตา วิวัฒนทีปะ อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคของทันตแพทยสภา พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมยึดอุปกรณ์เหล็กดัดฟันแฟชั่นเถื่อนผิดกฎหมาย โดยยึดของกลางเหล่านี้ได้ที่ร้านพลอยและร้านพิ้งค์ ภายในตลาดสายใต้ใหม่เซ็นเตอร์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน เป็นชาย 1 คน ชื่อนายสุทันว์ หรือไกด์  อายุ 37 ปี เจ้าของร้านพิงค์ และหญิง 1 คนชื่อ น.ส.พรธิรา หรือพลอย อายุ 24 ปี เจ้าของร้านพลอย รศ.ทญ.นิตากล่าวว่า การตรวจยึดดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างทันตแพทยสภา โดยได้รับเบาะแสว่ามีกลุ่มเด็กวัยรุ่นมาจัดฟันแฟชั่นตามตลาดนัดเป็นจำนวนมาก จึงนำกำลังไปตรวจค้นและจับกุมที่จุดเกิดเหตุ ทั้งนี้การจัดฟันแฟชั่นเป็นการจัดฟันเทียม โดยใช้อุปกรณ์จัดฟันของจริง แต่เป็นการเลียนแบบ ทำเพื่อความสวยงามไม่ใช่เพื่อการรักษา โดยเครื่องมือก็ไม่ได้มาตรฐาน สั่งซื้อจากประเทศจีนซึ่งมีสารหนูอยู่ในโลหะดัดฟันเหล่านี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทาง อย. อีกทั้งคนที่ทำก็ไม่ใช่ทันตแพทย์ เป็นคนทั่วไป เหล็กดัดฟันอาจเกี่ยวเหยือก ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV โรคเริม ไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตได้ เนื่องจากอุปกรณ์ไม่สะอาด ไม่ได้รับการฆ่าเชื้อ ร้านที่รับทำเหล่านี้ก็ทำกันในตลาดนัด ไม่ได้มาตรฐาน ราคาเพียงหลักร้อย จึงประสานกำลังตำรวจไปจับกุม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่า เปิดมาได้ 2 เดือน โดยไปซื้ออุปกรณ์เหล็กดัดฟันแฟชั่นจากตลาดเสือป่า โดยสาเหตุที่ทำเป็นนั้น เพราะมีคนสอนครูพักลักจำกันมา โดยไม่ได้จบทางด้านทันตแพทย์หรือมีใบอนุญาตวิชาชีพแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ประชาชนที่พบเบาะแสเหล็กดัดฟันแฟชั่นให้แจ้งมาได้ที่เพจ “มือปราบหมอฟันเถื่อน” ได้ตลอด 24 ชม.

การวิเคราะห์ข่าว : เนื่องจากปัจจุบันการจัดฟันเป็นสิ่งที่นิยมกันอย่างมากในหมู่วัยรุุ่น แต่สำหรับบางคนที่พ่อและแม่อาจจะไม่อยากให้ไปจัดฟัน แต่ด้วยความอยากตามเทรนด์จึงทำให้ไปจัดฟันแบบแฟชั่นซึ่งไม่คำนึงถึงผลเสียที่ตามมา ดังนั้นจึงควรระมัดระวังกันเป็นอย่างมากในการจัดฟันแฟชั่น หรือทางที่ดีคือไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปจัดฟันแบบแฟชั่นเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น